สบายกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว! ฉีกกฎการใช้งานหูฟังออกกำลังกาย ไม่ต้องใช้จุกยาง ไม่ต้องใช้ระบบสั่นสะเทือน Bonce Conduction ด้วย Shokz OpenFit หูฟังแบบ Open-ear Design ที่ออกแบบให้ใส่สบาย เหมือนไม่ได้สวมใส่ แต่ใช้ Dynamic Driver ที่ให้รายละเอียดสูง พร้อมเบสที่หนักแน่น เพื่อเพิ่มอารมณ์การออกกำลังกายให้ถึงขีดสุด! |
อุปกรณ์ในกล่อง
คุณภาพเสียง
ในส่วนของเรื่องเสียงนั้น Shokz OpenFit โทนเสียงโดยรวมนั้นมีความหนาและเสียงเข้มกำลังดีไม่ติดบางและไม่เสียดหู นอกจากนี้เสียงนักร้องนั้นฟังง่ายมีมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน สะอาดและไม่หุบไปด้านหลัง เสียงสูงโปร่งโล่งตามสไตล์ของ Open-Ear แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความแหลมเสียดหูนะครับ เพราะรุ่นนี้เค้าให้เสียงแหลมที่ฟังสบาย จูนมาให้ซอฟท์ลงฟังง่ายไม่เสียดหูแน่นอน ไม่ว่าคุณจะชอบฟังเพลงสไตล์ไหน OpenFit ก็สามารถให้เสียงที่ออกมาได้อย่างน่าฟังในทุก ๆ แนวเพลง
โดยรวมแล้วหูฟัง Shokz OpenFit เป็นหูฟังที่มีดีไซน์การออกแบบให้มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย มาพร้อมเทคโนโลยี DirectPitch, Shokz Open Bass, การปรับช่วง EQ แบบ Real Time และไมโครโฟนที่ใช้ AI ในการตัดเสียงรบกวน นอกจากนี้ยังกันน้ำได้ในระดับ IP54 เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟังที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่แบบครบ ๆ ได้เลยครับ
Video Reviews จากทีมงาน
![]() |
![]() |
หูฟัง Shokz OpenFit รุ่นนี้ มาพร้อมกับ Open Ear design ที่แม้จะไม่ใช่ Bone Conduction ครับ โดยจะไม่ได้ใช้การสั่นเพื่อส่งเสียงเข้าสู่กระดูกแล้ว แต่ได้ความสะดวกสบายในการสวมใส่ได้ทั้งวันมาแทน รวมถึงยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ทำได้ดีเกินคาด
![]() |
เมื่อมีวัสดุและการออกแบบที่ดี จึงใส่สบายขั้นสุด
Shokz ได้ออกแบบ OpenFit มาให้มีการสวมใส่แบบคล้องหูซึ่ง โดยรูปทรงของตัวก้านนั้นถูกดีไซน์มาแบบ Ergonomic Design ให้การสวมใส่ที่ดีเยี่ยมเข้ากันกับสรีระหูของคนส่วนมากโดยทาง Shokz Lab ได้ใช้ข้อมูลสแกนใบหูฟังของผู้คนทั่วโลกจำนวนมากในการสร้างรูปทรงการคล้องหูของ OpenFit ออกมาโดยใช้ชื่อว่า Dolphin ARC ครับ
นอกจากนี้วัสดุนั้นยังเป็นซิลิโคนที่อ่อนนุ่มมาก ๆ และมาความบางเพียง "0.7mm" เท่านั้นอีกทั้งน้ำหนักหูฟังต่อข้างนั้นเบาเพียง "8 กรัม" ทำให้ใส่ได้สบายไม่หนักหูครับ อีกทั้งด้วยรูปทรงแบบนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่หลุดหูง่ายสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ ได้อย่างมั่นใจเลยล่ะครับ อ้อ!! เจ้า OpenFit ยังมีมาตรฐาน "IP54" อีกด้วยนะครับฉะนั้นสามารถใส่ออกกำลังกายได้ไม่ต้องกลัวเหงื่อจ้า
เท่านั้นยังไม่พอทาง Shokz ยังใส่ใจเรื่องการสวมใส่มากกว่าที่คิดเพราะเค้าได้ใช้ Liquid-Silicone ที่บริเวณ Ear Cushion Core ซึ่งเป็นจุดที่ต้องสัมผัสกับบริเวณด้านในหูทำให้ไม่เกิดการกดทับหรือไปดันหูจนเจ็บเพราะ Liquid-Silicone มีความอ่อนนุ่มแบบสุด ๆ เลยล่ะครับ
![]() |
หมดกังวลเรื่องเสียงลอด
เชื่อว่าหลายท่านสนใจหูฟังประเภท Open-Ear แบบนี้แต่มีความกังวลเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่หูฟังระบบนี้เสียงมักจะลอดออกไปให้คนอื่นได้ยินด้วย ซึ่งทาง Shokz นั้นเข้าใจถึงความกังวลนี้ดี จึงได้ออกแบบระบบ "DirectPitch Directional Sound Field Technology" ที่จะคุมการกระจายตัวของเสียงให้ส่งตรงเข้าสู่หูของผู้ใช้งาน ไม่ให้ลอยออกไปสู่ภายนอกเหมือนกับหูฟังรุ่นอื่น ๆ
โดยทางแบรนด์ได้ระบุว่า หากอยู่ในที่เงียบแล้วเปิดความดังเสียงที่ระดับ 50% เสียงที่ลอดออกแบบแทบจะเป็น 0% ซึ่งจากที่ทำการทดสอบมานั้นถือว่าเป็นจริงตามที่ทางแบรนด์ได้กล่าวไว้ครับ เพราะคนภายนอกแทบจะไม่ได้ยินเสียงเลย หรือได้ยินก็จาง ๆ ฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงอะไรกันแน่ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ
![]() |
ระบบสัมผัสที่ง่ายต่อการควบคุม
ปกติแล้วเวลาใช้งานหูฟัง TWS ที่เป็นระบบสัมผัสเวลาจะแตะเพื่อเปลี่ยนเพลงก็จะต้องแตะลงไปจะ 2 หรือ 3 ทีก็แล้วแต่รุ่น แต่สิ่งที่ตามมาคือการแตะลงไปจะเป็นดันให้ตัวหูฟังเข้าไปในรูหูมากขึ้นบางท่านที่ไวต่อเรื่องแบบนี้อาจจะรู้สึกเจ็บหรืออึดอัดได้ แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดกับ Shokz OpenFit ครับ
เพราะตัวบอดี้เค้าจะไม่ได้เข้าไปในรูหูทำให้เวลาแตะเพื่อออกคำสั่งนั้นจะไม่เป็นการดันหูฟังให้เข้าไปด้านในจึงแตะได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นและจะออกแรงอย่างไรก็แล้วแต่สะดวกเลย
![]() |
การควบคุม
● เล่น-หยุดเพลง : แตะ 2 ครั้ง ได้ทั้ง ซ้ายและขวา
● รับ-วางสาย : แตะ 2 ครั้ง ได้ทั้ง ซ้ายและขวา
● ปฏิเสธสาย : แตะค้าง ได้ทั้ง ซ้ายและขวา
● กลับไปต้นเพลง-ย้อนเพลง : แตะค้าง 3 วินาที ข้าง ซ้าย
● ข้ามเพลง : แตะค้าง 3 วินาที ข้าง ขวา
เปิดการเชื่อมต่อ (Pairing) : ในขณะที่หูฟังอยู่ในเคส แตะที่หูฟังทั้งสองข้างค้างไว้จนไปที่เคสกระพริบเป็นสี ส้ม สลับ เขียว
![]() |
ไมโครโฟนที่มี AI พร้อมใช้ทุกสถานการณ์
OpenFit นั้นมี AI Algorithm ที่จะเข้ามาช่วยในการกรองเสียงรบกวนและเสียงสะท้อนในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้ตัวไมโครโฟนสามารถดักจับเสียงสนทนาของผู้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้เสียงถูกส่งไปยังปลายสายได้อย่างชัดเจนโดยไม่ถูกเสียงรบกวนรอบข้างกลบเสียงสนทนา จึงมั่นใจได้ว่า OpenFit จะช่วยให้สามารถคุยสายสำคัญ ๆ ได้ไม่ว่าจะใช้งานอยู่ที่ไหนก็คามครับ
![]() |
ปรับเสียงให้ลงตัวในแบบฉบับของคุณ
OpenFit นั้นรองรับกับแอปลิเคชัน "Shokz" ที่มีให้ดาวน์โหลดทั้ง Android และ iOS เลยครับ โดยจะเป็นแอปลิเคชันเดียวกันกับตัว OpenRun Pro นั่นเองครับ ซึ่งภายในนั้นก็จะมีให้ปรับแต่ง EQ ได้หรือจะเลือกเป็น Preset ที่ทางแบรนด์ใส่มาให้แล้วก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังสามารถปรับแต่งระบบสัมผัสเพิ่มเติมได้อีกและยังรวมถึงอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านแอปลิเคชันนี้ได้อีกเช่นกัน
![]() |
ผสานพลังเสียงด้วยเทคโนโลยีและไดรเวอร์แบบสั่งทำพิเศษ
OpenFit นั้นมาพร้อมเทคโนโลยี "Shokz Open Bass" ที่ช่วยเสริมเสียงเบสให้มีความเหมาะสมโดยส่งตรงเข้าสู่หูของผู้ใช้งานโดยไม่ต้องผ่านการกรองใด ๆ เพื่อชดเชยจากการที่เป็นระบบ Open-Ear ที่เสียงรอบข้างจะเข้ามาเจือจางให้เบสน้อยลงตามธรรมชาติ
แต่ระบบนี้จะทำให้สัมผัสเบสได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้เสียงดูผิดธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยชดเชยอิมเมจเสียงให้ใหญ่ขึ้นมีน้ำหนักและมีมวลเสียงที่เต็มอิ่มมากในลักษณะคล้ายกับหูฟังแบบ Clip-On อีกทั้งยังมีการ Equalizer เสียงให้แบบ Real Time ตามระดับความดังที่ใช้
ซึ่งทำงานควบคู่กับ Dynamic Driver ที่สั่งทำมาเป็นพิเศษขนาด "18mm. x 11mm." ที่มีประสิทธิภาพสูง หากลองเอานิ้วไปสัมผัสที่ตัวบอดี้ของหูฟังจะสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นจากการทำงานภายในได้เลยล่ะครับ
โทนเสียงโดยรวมนั้นมีความหนาและเสียงเข้มกำลังดีไม่ติดบางและไม่เสียดหู นอกจากนี้เสียงนักร้องนั้นฟังง่ายมีมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน สะอาดและไม่หุบไปด้านหลัง เสียงสูงโปร่งโล่งตามสไตล์ของ Open-Ear
แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความแหลมเสียดหูนะครับ เพราะรุ่นนี้เค้าให้เสียงแหลมที่ฟังสบายจูนมาให้ซอฟท์ลงฟังง่ายไม่เจี๊ยวจ๊าวแน่นอน ไม่ว่าคุณจะชอบฟังเพลงสไตล์ไหน OpenFit ก็สามารถให้เสียงที่ออกมาได้อย่างน่าฟังในทุก ๆ แนวเพลงครับ
![]() |
Specification |
|
|
|
|
|
การรับประกัน
สินค้าประกันศูนย์ไทยบจ. KOAN 2 ปีจ้าๆๆ
![]() |
ตัวเคสจะมีไฟ LED สองดวงสำหรับบอกสถานะการใช้งานและแบตเตอรี่ของตัวหูฟังครับ โดยจะมีดังต่อไปนี้
● แบตเตอรี่สูง : เมื่อเปิดฝาเคส จะโชว์ไฟสีเขียวเป็นเวลา 5 วินาที
● แบตเตอรี่ต่ำ : เมื่อเปิดฝาเคส จะโชว์ไฟสีส้มเป็นเวลา 5 วินาที
● กำลังจับคู่ : จะโชว์ไฟสีส้มสลับเขียวตลอดระยะเวลาจับคู่
● รีเซ็ทคืนค่าโรงงาน : จะโชว์ไฟสีส้ม และดับลงหลังจาก 5 วินาที
และเมื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ตัวเคส ไฟ LED จะเปลี่ยนเป็นสีส้มเมื่อกำลังชาร์จ และเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อชาร์จเต็มแล้ว
![]() |
สำหรับการใช้งานครั้งแรก เมื่อเปิดฝาเคสตัวหูฟังจะเข้าโหมดจับคู่โดยอัตโนมัติ เราก็สามารถทำการเชื่อมต่อโดยเลือกที่หัวข้อ Bluetooth บนสมาร์ทโฟนและทำการเชื่อมต่อได้เลย
แต่ถ้าหากเคยเชื่อมต่อไปแล้วและต้องการเชื่อมต่อใหม่ ให้นำหูฟังเก็บลงในกล่องทั้งสองข้าง จากนั้นให้แตะที่บริเวณที่กำหนดค้างไว้สักครู่ ไฟ LED ที่ตัวเคสจะโชว์สีส้มสลับเขียว ก็จะเป็นการเข้าโหมดจับคู่อีกครั้งหนึ่งครับ
และถ้าหากเกิดปัญหาการใช้งาน และต้องการรีเซ็ทหูฟังให้กลับสู่การตั้งค่าโรงงาน ก็ทำได้ง่ายๆโดยเก็บหูฟังลงในเคสทั้งสองข้าง จากนั้นแตะบริเวณที่กำหนดค้างไว้ 15 วินาที ตัวเคสจะโชว์ไฟสีส้มเป็นเวลา 5 วินาทีแล้วจะดับลง ก็จะเป็นการเสร็จสิ้นการคืนค่าโรงงาน จากนั้นรอสักครู่ไฟที่เคสจะติดขึ้นอีกครั้งพร้อมเข้าสู่โหมดจับคู่ให้เองเลยครับ
|
สำหรับการควบคุมหลักๆจะมีสองอย่างคือ แตะสองครั้ง, และแตะค้างครับ โดยการควบคุมการฟังเพลง เมื่อแตะสองครั้งจะเป็นการเล่น-หยุดเพลง หากแตะค้างจะเป็นการเปลี่ยนเพลงถัดไปหรือเพลงก่อนหน้า ขึ้นอยู่กับข้างที่แตะครับ
สำหรับการใช้คุยโทรศัพท์ การแตะสองครั้งจะเป็นการรับสายหรือวางสาย แต่ถ้าแตะค้างจะเป็นการปฏิเสธรับสายนั่นเอง
สำหรับ Shokz OpenFit นั้นจะไม่รองรับการควบคุมระดับเสียง สามารถปรับระดับเสียงจากอุปกรณ์ที่จับคู่อยู่ได้เลยครับ
![]() |
ในส่วนของการสวมใส่ เนื่องจากดีไซน์ของเจ้า OpenFit นั้นจะไม่เหมือนใคร ทำให้การใส่ครั้งแรกอาจจะงงๆสักหน่อย แต่ก็ไม่ยากเลยครับ โดยแค่เพียงหมุนตัวหูฟังไปด้านหน้าตามภาพ แล้วเกี่ยวขาหูฟังเข้ากับใบหู จากนั้นก็ทำการหมุนกลับจนสุด ตัวหูฟังจะเกี่ยวเข้ากับใบหูได้พอดี กระชับ ไม่หลุดอย่างแน่นอนครับ
![]() |
หูฟัง Shokz OpenFit รองรับการใช้งานแบบข้างเดียวทั้งฝั่งซ้ายและขวาครับ โดยระบบเสียงจะเป็นแบบโมโนเมื่อใช้งานแบบข้างเดียว และฟังก์ชั่นการควบคุมก็จะเหมือนเดิมตามข้างที่ใช้งาน
อุปกรณ์ภายในกล่อง
Specification |
|
|
|
|
|
รีวิว : SHOKZ OPENFIT โลกส่วนตัวที่ไร้การปิดกั้น
หูฟัง Shokz OpenFit รุ่นนี้ มาพร้อมกับ Open Ear design ที่แม้จะไม่ใช่ Bone Conduction ครับ โดยจะไม่ได้ใช้การสั่นเพื่อส่งเสียงเข้าสู่กระดูกแล้ว แต่ได้ความสะดวกสบายในการสวมใส่ได้ทั้งวันมาแทน รวมถึงยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ทำได้ดีเกินคาด
![]() |
เมื่อมีวัสดุและการออกแบบที่ดี จึงใส่สบายขั้นสุด
Shokz ได้ออกแบบ OpenFit มาให้มีการสวมใส่แบบคล้องหูซึ่ง โดยรูปทรงของตัวก้านนั้นถูกดีไซน์มาแบบ Ergonomic Design ให้การสวมใส่ที่ดีเยี่ยมเข้ากันกับสรีระหูของคนส่วนมากโดยทาง Shokz Lab ได้ใช้ข้อมูลสแกนใบหูฟังของผู้คนทั่วโลกจำนวนมากในการสร้างรูปทรงการคล้องหูของ OpenFit ออกมาโดยใช้ชื่อว่า Dolphin ARC ครับ
นอกจากนี้วัสดุนั้นยังเป็นซิลิโคนที่อ่อนนุ่มมาก ๆ และมาความบางเพียง "0.7mm" เท่านั้นอีกทั้งน้ำหนักหูฟังต่อข้างนั้นเบาเพียง "8 กรัม" ทำให้ใส่ได้สบายไม่หนักหูครับ อีกทั้งด้วยรูปทรงแบบนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่หลุดหูง่ายสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ ได้อย่างมั่นใจเลยล่ะครับ อ้อ!! เจ้า OpenFit ยังมีมาตรฐาน "IP54" อีกด้วยนะครับฉะนั้นสามารถใส่ออกกำลังกายได้ไม่ต้องกลัวเหงื่อจ้า
เท่านั้นยังไม่พอทาง Shokz ยังใส่ใจเรื่องการสวมใส่มากกว่าที่คิดเพราะเค้าได้ใช้ Liquid-Silicone ที่บริเวณ Ear Cushion Core ซึ่งเป็นจุดที่ต้องสัมผัสกับบริเวณด้านในหูทำให้ไม่เกิดการกดทับหรือไปดันหูจนเจ็บเพราะ Liquid-Silicone มีความอ่อนนุ่มแบบสุด ๆ เลยล่ะครับ
![]() |
หมดกังวลเรื่องเสียงลอด
เชื่อว่าหลายท่านสนใจหูฟังประเภท Open-Ear แบบนี้แต่มีความกังวลเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่หูฟังระบบนี้เสียงมักจะลอดออกไปให้คนอื่นได้ยินด้วย ซึ่งทาง Shokz นั้นเข้าใจถึงความกังวลนี้ดี จึงได้ออกแบบระบบ "DirectPitch Directional Sound Field Technology" ที่จะคุมการกระจายตัวของเสียงให้ส่งตรงเข้าสู่หูของผู้ใช้งาน ไม่ให้ลอยออกไปสู่ภายนอกเหมือนกับหูฟังรุ่นอื่น ๆ
โดยทางแบรนด์ได้ระบุว่า หากอยู่ในที่เงียบแล้วเปิดความดังเสียงที่ระดับ 50% เสียงที่ลอดออกแบบแทบจะเป็น 0% ซึ่งจากที่ทำการทดสอบมานั้นถือว่าเป็นจริงตามที่ทางแบรนด์ได้กล่าวไว้ครับ เพราะคนภายนอกแทบจะไม่ได้ยินเสียงเลย หรือได้ยินก็จาง ๆ ฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงอะไรกันแน่ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ
![]() |
ระบบสัมผัสที่ง่ายต่อการควบคุม
ปกติแล้วเวลาใช้งานหูฟัง TWS ที่เป็นระบบสัมผัสเวลาจะแตะเพื่อเปลี่ยนเพลงก็จะต้องแตะลงไปจะ 2 หรือ 3 ทีก็แล้วแต่รุ่น แต่สิ่งที่ตามมาคือการแตะลงไปจะเป็นดันให้ตัวหูฟังเข้าไปในรูหูมากขึ้นบางท่านที่ไวต่อเรื่องแบบนี้อาจจะรู้สึกเจ็บหรืออึดอัดได้ แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดกับ Shokz OpenFit ครับ
เพราะตัวบอดี้เค้าจะไม่ได้เข้าไปในรูหูทำให้เวลาแตะเพื่อออกคำสั่งนั้นจะไม่เป็นการดันหูฟังให้เข้าไปด้านในจึงแตะได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นและจะออกแรงอย่างไรก็แล้วแต่สะดวกเลย
![]() |
การควบคุม
เล่น-หยุดเพลง : แตะ 2 ครั้ง ได้ทั้งซ้ายและขวา
รับ-วางสาย : แตะ 2 ครั้ง ได้ทั้งซ้ายและขวา
ปฏิเสธสาย : แตะค้าง ได้ทั้งซ้ายและขวา
กลับไปต้นเพลง-ย้อนเพลง : แตะค้าง 3 วินาที ข้างซ้าย
ข้ามเพลง : แตะค้าง 3 วินาที ข้างขวา
เปิดการเชื่อมต่อ (Pairing) : ในขณะที่หูฟังอยู่ในเคส แตะที่หูฟังทั้งสองข้างค้างไว้จนไปที่เคสกระพริบเป็นสี ส้ม สลับ เขียว
![]() |
ไมโครโฟนที่มี AI พร้อมใช้ทุกสถานการณ์
OpenFit นั้นมี AI Algorithm ที่จะเข้ามาช่วยในการกรองเสียงรบกวนและเสียงสะท้อนในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้ตัวไมโครโฟนสามารถดักจับเสียงสนทนาของผู้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้เสียงถูกส่งไปยังปลายสายได้อย่างชัดเจนโดยไม่ถูกเสียงรบกวนรอบข้างกลบเสียงสนทนา จึงมั่นใจได้ว่า OpenFit จะช่วยให้สามารถคุยสายสำคัญ ๆ ได้ไม่ว่าจะใช้งานอยู่ที่ไหนก็คามครับ
![]() |
ปรับเสียงให้ลงตัวในแบบฉบับของคุณ
OpenFit นั้นรองรับกับแอปลิเคชัน "Shokz" ที่มีให้ดาวน์โหลดทั้ง Android และ iOS เลยครับ โดยจะเป็นแอปลิเคชันเดียวกันกับตัว OpenRun Pro นั่นเองครับ ซึ่งภายในนั้นก็จะมีให้ปรับแต่ง EQ ได้หรือจะเลือกเป็น Preset ที่ทางแบรนด์ใส่มาให้แล้วก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังสามารถปรับแต่งระบบสัมผัสเพิ่มเติมได้อีกและยังรวมถึงอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านแอปลิเคชันนี้ได้อีกเช่นกัน
![]() |
ผสานพลังเสียงด้วยเทคโนโลยีและไดรเวอร์แบบสั่งทำพิเศษ
OpenFit นั้นมาพร้อมเทคโนโลยี "Shokz Open Bass" ที่ช่วยเสริมเสียงเบสให้มีความเหมาะสมโดยส่งตรงเข้าสู่หูของผู้ใช้งานโดยไม่ต้องผ่านการกรองใด ๆ เพื่อชดเชยจากการที่เป็นระบบ Open-Ear ที่เสียงรอบข้างจะเข้ามาเจือจางให้เบสน้อยลงตามธรรมชาติ
แต่ระบบนี้จะทำให้สัมผัสเบสได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้เสียงดูผิดธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยชดเชยอิมเมจเสียงให้ใหญ่ขึ้นมีน้ำหนักและมีมวลเสียงที่เต็มอิ่มมากในลักษณะคล้ายกับหูฟังแบบ Clip-On อีกทั้งยังมีการ Equalizer เสียงให้แบบ Real Time ตามระดับความดังที่ใช้
ซึ่งทำงานควบคู่กับ Dynamic Driver ที่สั่งทำมาเป็นพิเศษขนาด "18mm. x 11mm." ที่มีประสิทธิภาพสูง หากลองเอานิ้วไปสัมผัสที่ตัวบอดี้ของหูฟังจะสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นจากการทำงานภายในได้เลยล่ะครับ
โทนเสียงโดยรวมนั้นมีความหนาและเสียงเข้มกำลังดีไม่ติดบางและไม่เสียดหู นอกจากนี้เสียงนักร้องนั้นฟังง่ายมีมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน สะอาดและไม่หุบไปด้านหลัง เสียงสูงโปร่งโล่งตามสไตล์ของ Open-Ear
แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความแหลมเสียดหูนะครับ เพราะรุ่นนี้เค้าให้เสียงแหลมที่ฟังสบายจูนมาให้ซอฟท์ลงฟังง่ายไม่เจี๊ยวจ๊าวแน่นอน ไม่ว่าคุณจะชอบฟังเพลงสไตล์ไหน OpenFit ก็สามารถให้เสียงที่ออกมาได้อย่างน่าฟังในทุก ๆ แนวเพลงครับ
![]() |