รีวิว / วีดีโอ / บทความ
รีวิวหูฟังไร้สาย JBL Tour Pro 3 เพลินกว่า สมาร์ตกว่า enjot ขั้นสุด
TOUR PRO 3 เลือกที่จะเพิ่มไดรเวอร์ BA เข้ามาอีกหนึ่งตัวเพื่อให้ตอบสนองย่านความถี่สูงได้ดีขึ้น ให้เนื้อเสียงที่คมชัดสะอาดหมดจดยิ่งขึ้นส่วน DD Driver นั้นยังคงให้เนื้อเสียงที่เข้มข้นมีเนื้อเสียงที่อิ่มหนาอยู่เช่นเคย เมื่อผสานกันแล้วทำให้ได้เสียงที่น่าฟังยิ่งขึ้น เข้ากับแนวเพลงต่าง ๆ ได้มากขึ้นครับ
หน้าจอของ TOUR PRO 3 มีขนาดที่ใหญ่เต็มตากว่าเดิมถึง 25% ทำให้การสัมผัสรวมไปถึงการมองเห็นนั้นเต็มตายิ่งขึ้นครับ แน่นอนว่า Wallpaper ที่เปลี่ยนก็เห็นได้เต็มตากว่าเดิมด้วยเช่นกันคร้าบ
ไมค์ของ TOUR PRO 3 สามารถลดเสียงรบกวนแวดล้อมได้มากขึ้น เสียงที่เราพูดส่งไปยังปลายสายได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิมนอกจากนี้ในแอปฯ ยังมีให้เลือกปรับเสียงของตัวเราและเสียงของคู่สนทนาให้ได้ว่าจะให้เนื้อเสียงแบบเป็นธรรมชาติ เสียงบางลง หรือ เสียงทุ้มขึ้นก็ทำได้เช่นกันครับ
ตัวเคสรองรับการใช้งานแบบ Wireless Transmission โดยภายในกล่องให้สาย USB มาทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ USB-A to USB-C, USB-C to USB-C และ USB-C to 3.5mm ครับ
โดยสามารถนำสายเชื่อมต่อเข้าที่ตัวเคสแล้วอีกด้านไปต่อที่ Output ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้เช่น Laptop, PC, Mac, iPod, DAP, CD Player, PS5, Nintendo Switch ทำให้อุปกรณ์ต้นทางรุ่นที่ไม่ได้รองรับ Bluetooth สามารถส่งเสียงมายังตัวหูฟังได้ครับหลังจากที่เชื่อมต่อแล้วก็กดเปลี่ยนโหมดที่ตัวเคสให้เป็นรูป USB เพียงเท่านี้ก็ใช้งานได้แล้วล่ะครับ ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจและช่วยให้เราใช้งาน JBL Tour Pro 3 กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้นจ้า
ระบบ ANC ของ TOUR PRO 3 สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมถึง 10dB เลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะในความถี่ช่วง 50Hz ถึง 200Hz ครับ
นับว่า JBL เสริมความสามารถให้กับ TOUR PRO 3 ได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียวครับ หากใครที่สนใจหูฟังตัวท็อปที่มีความสามารถหลากหลาย ใช้งานได้จริงทุกฟีเจอร์ล่ะก็ อย่ามองข้าม JBL TOUR PRO 3 ตัวนี้เด็ดขาดเลยจ้าาา